เหมือนใคร ฟิลปปี 3:10
“ข้าพเจ้าต้องการรู้จักพระคริสต์และมีประสบการณ์ในฤทธิ์อำนาจแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์ และร่วมสามัคคีธรรมในการทนทุกข์กับพระองค์ เป็นเหมือนพระองค์ในการสิ้นพระชนม์”
10. เยีย ขูง อ๋อย ฮิ้ว ตุ๊ กีตู่, หย่า ฮิ้ว ตุ๊ ปุน นิ่น นั่ง ต้าย เญย ต้ม ชะ, หย่า ม่าย ป่วน เหธา นิ่น เสี่ยว โค้ว, หย่า ฮนั้ง นิ่น นอ ไต่,
10. that I may know him, and the power of his resurrection, and the fellowship of his sufferings, becoming conformed to his death;
พระนางคลีโอพัตราแห่งไอยคุปต์ ผู้งดงามสติปัญญาฉลาดล้ำ รู้ใจ และรู้เท่าทันคน เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ รู้เรื่องรัฐศาสตร์การปกครองต่างๆ และพูดได้ ๖ ภาษาและยังพูดภาษาอียิปต์โบราณได้คล่องแคล่วอีกด้วย
ถ้าจะพูดถึงนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เอดิสัน ประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์จำนวนมากกว่า 1,000 ชิ้น นอกจากนี้เขายังปรับปรุงเครื่องใช้ที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น โทรศัพท์ เครื่องส่งโทรเลข เป็นต้น ผลงานการประดิษฐ์ของเขาเป็นสิ่งที่สร้างความสะดวกสบาย และเป็นประโยชน์อย่างมากให้กับสาธารณชน
มีบุคคลสำคัญของโลกที่ผู้คนมากมายยกย่องให้เขาเป็นวีรบุรุษ หรือวีระสตรีเราอาจจะไม่รู้จัก และเราอาจจะไม่ได้รับผลเสียหาย เดือดร้อนอะไร แม้ว่าเราอาจจะไม่รู้จักท่านผู้นั้นเลย ทั้งไม่เคยสนใจที่จะรับทราบเรื่องราวของเขา หรืออาจจะมีความสนใจแต่แค่อยากจับมือท่าน อยากได้ลายเซ็นต์ หรือถ่ายรูป เอามาเก็บไว้บนหิ้งดูเล่นหรือเอามาไว้บูชาสุด
พระคริสต์เป็นบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตเรา เราทั้งหลายอยากจะรู้จักพระองค์แค่ไหน อยากจะมีประสบการณ์ชีวิตกับพระองค์เพียงใด
ขอให้เราได้มาพิจารณาดูชีวิตของเปาโล ผู้ซึ่งมีใจอยากจะรู้จักพระคริสต์ อยากมีประสบการณ์กับพระองค์ อยากร่วมตายกับพระองค์ จากพระธรรมฟิลิปปี 3:10 นี้
- 1. รู้จักพระคริสต์
ตัวอย่างชีวิตเปาโล ในอดีต เปาโลได้ปฏิเสธเรื่องราวของพระคริสต์อย่างสิ้นเชิง เพราะท่านมีความภูมิใจยิ่งนักในชาติกำเนิดของท่าน ท่านเกิดมาได้ 8 วันก็เข้าพิธีสุหนัต ท่านเป็นยิวซึ่งถือว่าเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของโลก (สำหรับความคิดของคนยิว) ท่านมีการศึกษาสูงมีอาจารย์ที่มีชื่อเสียง คือกามาลิเอล เป็นคนเคร่งในคำสอนของพระเจ้าแบบไม่มีที่ติได้ เป็นผู้นำศาสนาอยู่ในกลุ่มฟาลิสี ท่านเกิดในตระกูลเบนยามิน ตระกลูของท่านเป็นตระกูลหนึ่งที่มีหน้ามีตาในสังคม เช่น
- ซาอูลกษัตริย์อิสราเอลองค์แรกมาจากตระกูลนี้
- เป็น 1 ใน 2 ตระกูลที่ได้กลับจากการเป็นเชลย
เป็นต้น
ท่านมองดูรูปแบบชีวิตของท่านซึ่งในสายตาของคนทั่วไปถือว่าเป็นชีวิตที่มีกำไรยิ่ง ผู้คนมากมายในสมัยของท่าน อยากรู้จักท่าน อยากจะเป็นเหมือนท่าน แม้แต่ในสมัยนี้ ท่านก็เป็นบุคคลที่สำคัญ ท่านได้ชื่อว่านักบุญ คือนักบุญเปาโล แต่ท่านกลับบอกว่า ท่านขาดทุน ล้มละลายในข้อ 7
ท่านเห็นว่าตัวเองหลงทางมาเนิ่นนาน หลงในความวิเศษปลอม ๆ ของศาสนายิว (เศษขยะ) ทำไม
1.1 ไม่สามารถช่วยให้รอดได้
ข้อ 8 ท่านกล่าวต่อว่า “ที่จริงข้าพเจ้าถือว่าสิ่งสารพัดไร้ประโยชน์เพราะเห็นแก่ความประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์ ข้าพเจ้าจึงได้ยอมสละสิ่งสารพัด และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนหยากเหยื่อ เพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์”
1.2 อุปสรรคต่อความรอด
สิ่งที่เรารู้ มี เป็น เห็น รัก ชอบ เช่นการเรียน งาน คน ชื่อเสียง เกียตริยศ เงินทอง บ้าน คอมพิวเตอร์ มือถือ ฯลฯ ซึ่งเราหรือคนอื่น สังคมเพื่อนฝูง เห็นว่ามีคุณประโยชน์มาก แต่สิ่งเหล่านั้น อาจเป็นอุปสรรคต่อความรู้ถึงพระคริสต์ เป็นปัญหาทำให้เราไม่มีเวลา โอกาสที่จะเห็นพระคริสต์ชัด รู้จักพระองค์จริง สำหรับมุมมองแบบพระเจ้าแล้วสิ่งเหล่านั้นก็ไร้ค่า ไม่ต่างอะไรกับเศษขยะ
เปาโลมีใจอยากจะรู้จักพระคริสต์ คำว่า “รู้จัก” คำนี้ในภาษากรีกนั้นมีความหมายต่างจาก คำว่า”รู้จัก”ในภาษาไทยเรา คำนี้มีความหมายว่า อยากรู้ อยากมีความเกี่ยวข้อง อยากมีประสบการณ์ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนนั้นด้วย
โคโลสี 2:8
จงหลีกเลี่ยงธรรมเนียมต่างๆและปรัชญาของมนุษย์จงระวังให้ดี เกรงว่าจะมีผู้ใดทำให้ท่านตกเป็นเหยื่อด้วยหลักปรัชญาและด้วยคำล่อลวงอันไม่มีสาระ ตามธรรมเนียมของมนุษย์ ตามหลักการต่างๆที่เป็นของโลก ไม่ใช่ตามพระคริสต์
“อ๋อย หฒุ ไฝ ฟิม, ไม้ ตู๋ง ปุน หาย เต้า หล่ง ป้าม เมี่ยน เญย ธง-เม่ง ฮนั้ม ธ้วด ต้าย เญย เล์ย ไฟ ขูง-หว่า หวัก เม่ย บัว. เซ ดั๊ว เม่ย บัว กัน ป้าม เมี่ยน เญย เอ้ย โต้ว เหธา เยียม กุ๊น ด๊าม-ลู่ง เญย เมี้ยน ต้าย เญย เล์ย, ไม้ เฒ์ย เยียม กี ตู่ ต้าย.”
8. Be careful that you don’t let anyone rob you through his philosophy and vain deceit, after the tradition of men, after the elements of the world, and not after Christ.
- รู้จักฤทธิ์เดชแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์
6. ตามคำสอนคริสตชน จะแบ่งประชากรของพระศาสนจักรออกเป็น 3 ชั้น คือ
- ชั้นที่ 1 ได้แก่ ประชากรที่ชัยชนะในโลกนี้แล้วและกำลังเสวยสุขอันเป็นผลของชัยชนะนั้นใน สวรรค์ นิรันดร (นักบุญทั้งหลาย)
- ชั้นที่ 2 ได้แก่ ประชากรที่ประสบชัยชนะในโลกนี้แล้วเหมือนกัน แต่ยังต้องชำระมลทินโทษบาปอยู่ใน ไฟชำระ (นักบุญที่กำลังชำระตน)
- ชั้นที่ 3 ได้แก่ ประชากรที่กำลังเดินทางอยู่ในโลกนี้ อันเป็นถิ่นเนรเทศและถิ่นทุรกันดาร กำลังฟันฝ่าศัตรู อุปสรรคและความยากลำบากต่างๆ มุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ สวรรค์ (ผู้เดินทาง)
เรา ได้ทำฉลองสมโภชประชากรชั้นที่ 1 คือ นักบุญทั้งหลายไปแล้ว เมื่อ 1 พฤศจิกายน และวันที่ 2 พฤศจิกายน ก็เป็นการฉลองรำลึกถึงประชากรชั้นที่ 3
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน คือ นักบุญทั้งหลายที่ไปสวรรค์แน่นอนแล้วเหมือนกัน แต่ยังต้องชำระตนอยู่ในไฟชำระ จนกว่าจะบริสุทธิ์ผุดผ่องจึงจะเข้าสวรรค์ได้
เรา คือ ประชากรชั้นที่ 3 ที่ยังมีชีวิตอยู่ และกำลังเดินทางสู่สรรค์กันอยู่ ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจะไปให้ถึงให้ได้ แม้จะยังไม่แน่นอน แต่ก็พยายาม เพราะมีบอกไว้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ซึ่งต้องพยายามกันอยู่ทุกวัน
เราอาจรู้สึกยากเย็น ท้อแท้และสิ้นหวังกับการพยายามดำเนินชีวิตคริสเตียนที่ดี ทำไมเราจึกรู้สึกเช่นนั้น ก็เพราะเราทุกคนเกิดมาในเชื้อสายของอาดัมโดยทางกายภาพ (รม5:12) เราทั้งหลายที่เป็นลูกหลานของอาดัม ได้รับผลของบาป ทุกคนติดโรคบาปทุกคนมีสันดาน มีแนวโน้มที่จะทำบาป เราไม่สามารหนีพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้า เราทั้งหลายเป็นลูกหลานที่ต้องนำไปสู่หลักประหารทั้งนั้น
ทำไมก่อนที่เราจะกลับใจเราเป็นคนบาป เราชอบทำบาป เดี๋ยวนี้เราเป็นคริสเตียนแล้ว ก็ยังอยากทำบาปอยู่ แต่ความแตกต่างมันอยู่ที่ว่า เมื่อก่อนเราเป็นทาสบาป เป็นทาสของซาตาน ภูตผีปีศาจ แต่ว่าเดี๋ยวนี้เราไม่ใช่เป็นทาสของสิ่งเหล่านี้อีกต่อไปแล้วเพราะ “ตัวเก่าของเราถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว กายบาปนั้นได้ถูกขจัดให้สิ้นฤทธิ์ไปแล้ว เพื่อเราจะไม่เป็นทาสบาปต่อไป” (รม.6:6) พระเจ้าประกาศว่าเราเป็นผู้ชอบธรรม พ้นโทษแล้วโดยความดีของพระคริสต์ แต่ว่าพระเจ้าไม่ได้นำเราออกจากโลกนี้ หรือไม่ได้ทำให้เราเป็นหุ่นยนต์ เรายังคงอยากทำบาป และบางครั้งเราก็ทำ ความแตกต่งอยู่ที่ว่าก่อนที่เราจะได้รับความรอด เราเป็นทาสบาป แต่ตอนนี้เราพ้นจากการเป็นทาสบาปแล้ว
เราได้รู้จัก พระคริสต์ รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เราจะรู้จักฤทธิ์เดชแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ซึ่งฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่เดียวกันนี้แหละ ได้ช่วยให้เราบังเกิดใหม่และรับการเปลี่ยนแปลง
พี่น้องแต่ก่อนที่เราจะบังเกิดใหม่เราต้องตายต่อบาป การที่พระคริสต์ถูกตรึงตายบนกางเขนเป็นเครื่องหมายว่าเราได้ตายต่อธรรมชาติบาปเดิม ๆ ของเราแล้ว เหมือนกับที่การคืนพระชนม์ของพระองค์ ทำให้เรามีออำนาจของพระคริสต์เกิดผลในชีวิตเรา เราจะรู้จักชัยชนะ หรือฤทธิ์เดชแห่งการฟื้นพระชนม์โดยรับเอาการตรึงกางเขนเข้ามาในชีวิตของเราเป็นส่วนตัว เราเองต้องหยุดยกกายของเรา (รม. 6:12) หรือขายตัวเรากลับไปให้บาปอีก
- ร่วมทุกข์กับพระองค์
อาจารย์เปาโลกลับใจและยอมร่วมทุกข์กับพระคริสต์โดยการรับใช้
ในอดีตท่านคือผู้นำกองกำลังคอยข่มเหงกวาดล้างสร้างความทุกข์ยากและทำลายชีวิตพี่น้องคริสเตียนในสมัยเริ่มแรกที่เริ่มต้นมีคริสตจักรที่เยรูซาเล็ม เพราะต้องการกำจัด "ลัทธิคริสเตียน" ที่กำลังแพร่ไปอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องศาสนายิวหรือศาสนายูดาห์ที่ท่านถือและชาติฮีบรู ถือว่าเป็นศาสนาชั้นนำของโลก มีมาตรฐานสูง ในพระธรรมกิจการ 8 : 1-2 พระธรรมกิจการ9 :1-22 ได้กล่าวถึงเรื่อนี้ โคโลสี1.24 - 29
24 พระคริสต์สถิตอยู่ภายในบัดนี้ข้าพเจ้ามีความยินดีในการที่ได้รับความทุกข์ยากเพื่อท่าน ส่วนการทนทุกข์ของพระคริสต์ที่ยังขาดอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็รับทนจนสำเร็จในเนื้อหนังของข้าพเจ้าเพราะเห็นแก่พระกายของพระองค์คือคริสตจักร
24 อี้ หฒั่น เยีย ออน-เหลาะ ไห่ เหว่ย หฒุ เยีย ตุ๊ เหว่ย เม่ย บัว เสี่ยว โค้ว. กี^ตู่ เหว่ย นิ่น เญย ซิน, ต้ง จิว-ปาง, เสี่ยว โค้ว. เยีย เญย ซิน เสี่ยว โค้ว เซ เหว่ย เถง กี^ตู่ เสี่ยว เญย โค้ว ตุ้น ยุ่น เหฑ่ง.
24Now I rejoice in my sufferings for your sake, and fill up on my part that which is lacking of the afflictions of Christ in my flesh for his body’s sake, which is the assembly;
25 ข้าพเจ้าได้ถูกตั้งให้เป็นผู้รับใช้ตามที่พระเจ้าได้ทรงโปรดมอบภาระให้ข้าพเจ้าเพื่อท่าน เพื่อจะให้พระวจนะของพระเจ้าสำเร็จ
25 ทิน-ฮู่ง พ้าย เยีย โหฒว จิว-ปาง เญย โปว, ปุน เยีย ม่าย น้าย หญู่ง กง โหฒว เหว่ย เถง เม่ย บัว. เยีย โหฒว เญย กง เซ อ๋อย หฒุ ฒุ่น ทิน-ฮู่ง เญย โต์ ฑ่อย เหฑ่ง.
25of which I was made a servant, according to the stewardship of God which was given me toward you, to fulfill the word of God,
26 คือข้อความลึกลับซึ่งซ่อนเร้นอยู่หลายยุคและหลายชั่วอายุนั้น แต่บัดนี้ได้ทรงโปรดให้เป็นที่ประจักษ์แก่วิสุทธิชนของพระองค์แล้ว
26 น้าย โต์ เซ ฒิ่น ด่าง หม่าน โก๊ว หม่าน ต่อย ทิน-ฮู่ง ไม้ แก้ง ปุน บย๋าง ย่าง มป่า อี้ หฒั่น บย๋าง ย่าง ธ้วด ต้าย ปุน นิ่น เญย เมี่ยน ฮิ้ว. 26the mystery which has been hidden for ages and generations. But now it has been revealed to his saints,
27 พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้คนต่างชาติรู้ว่า อะไรเป็นความมั่งคั่งของสง่าราศีแห่งข้อลึกลับนี้คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งสง่าราศี
27 ทิน-ฮู่ง เญย หฒะเอ๋ย เซ อ๋อย ปุน นิ่น เญย เมี่ยน ฮิ้ว ตุ๊ น้าย ไม้ แก้ง บย๋าง ย่าง เญย สี่ ด่ง หาย จ๋าย, ด่ง หาย ฌัง-หล่าง, หย่า อ๋อย ปิ๋ว เม่ง ปุน ฝีงๆ จั๋น ฮิ้ว. น้าย ไม้ แก้ง บย๋าง ย่าง เญย สี่ ต้ง น้าย อ๊ะ. กี^ตู่ เยียม เม่ย บัว กะญั์ว, เซ ปุน เม่ย บัว ม่าย ลั่ม ฮนั้ม อ๋อย ตุ๊ ป่วน ทิน-ฮู่ง เญย ฌัง-หล่าง.
27to whom God was pleased to make known what are the riches of the glory of this mystery among the Gentiles, which is Christ in you, the hope of glory;
28 พระองค์นั้นแหละเราประกาศอยู่ โดยเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนโดยใช้สติปัญญาทุกอย่าง เพื่อเราจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่แล้วในพระเยซูคริสต์
28 เยีย บัว ฯฒฯ ฒุ่น กี^ตู่ เญย เจ๊า ปุน หฒวัง เมี่ยน หมวัง. เยีย บัว หล่ง หญู่งๆ ธง-เม่ง ขวิน เมี่ยน, หฌาว เมี่ยน เหว่ย ปุน เต้าๆ เหธา กี^ตู่ จวั่ง แหม่ง เฒี่ยง, ฯฒฯ ต้อ นิ่น บัว เถา ทิน-ฮู่ง เญย หฑะเฮมียน ตุ้น ยุ่น เหฑ่ง.
28whom we proclaim, admonishing every man and teaching every man in all wisdom, that we may present every man perfect in Christ Jesus;
29 เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงกระทำการงานด้วย โดยความอุตสาหะตามการกระทำของพระองค์ผู้ทรงออกฤทธิ์กระทำอยู่ในตัวข้าพเจ้า
29 เหว่ย น้าย เยีย โหฒว กง โค้ว, หล่ง เหฑ่ง กี^ตู่ ปุน เญย ชะ, ต้ง หฒั่นๆ เยียม เยีย เญย เฮญี้ยว โหฒว กง เญย ชะ.
29for which I also labor, striving according to his working, which works in me mightily.
2โครินธ11.24-29
24 พวกยิวเฆี่ยนข้าพเจ้าห้าครั้งๆละสามสิบเก้าที
25 เขาตีข้าพเจ้าด้วยไม้เรียวสามครั้ง เขาเอาก้อนหินขว้างข้าพเจ้าครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเผชิญภัยเรือแตกสามครั้ง ข้าพเจ้าลอยอยู่ในทะเลคืนหนึ่งกับวันหนึ่ง
26 ข้าพเจ้าต้องเดินทางบ่อยๆ เผชิญภัยอันน่ากลัวในแม่น้ำ เผชิญโจรภัย เผชิญภัยจากชนชาติของข้าพเจ้าเอง เผชิญภัยจากคนต่างชาติ เผชิญภัยในนคร เผชิญภัยในป่า เผชิญภัยในทะเล เผชิญภัยจากพี่น้องเทียม
27 ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก ต้องอดหลับอดนอนบ่อยๆ ต้องหิวและกระหาย ต้องอดข้าวบ่อยๆ ต้องทนหนาวและเปลือยกาย
28 และนอกจากสิ่งเหล่านั้นที่อยู่ภายนอกแล้ว ยังมีการอื่นที่บีบข้าพเจ้าอยู่ทุกวันๆ คือการดูแลคริสตจักรทั้งปวง
29 มีใครบ้างเป็นคนอ่อนกำลังและข้าพเจ้าไม่อ่อนกำลังด้วย มีใครบ้างที่ถูกทำให้สะดุดและข้าพเจ้าไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย
สรุป
พระเยซูคริสตเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนมากที่สุดในโลก คงไม่เกินความจริงมากไป หากจะพูดว่าพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนมากที่สุดในโลก ในทุกยุคทุกสมัย
ยอมแตกต่าง และยอมแตกหัก
กิจการ 6:5 – 8:4 ศิษย์ของพระเยซูเจ้า คือ สเทเฟน
“สเทเฟน” ผู้ประกอบด้วยพระวิญญาณ (Holy Spirit ) ความสำคัญของพันธกิจของ ท่านสเทเฟนคือ การเริ่มต้นของการแยกศาสนาคริสต์จากศาสนายิว ซึ่งสเทเฟนคงจะเป็นยิวนิยมกรีก จึงถูกพวกยิวกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทพระวิหารและธรรมบัญญัติเป็นพยานเท็จ สเทเฟนไม่ได้แก้ข้อกล่าวหา แต่เขามีความตั้งใจบอกกับยิวว่าพระเจ้า ไม่ทรงจำกัดด้วยสถานที่ เพราะพระองค์ทรงสากลสถิต แต่คนยิวไม่เห็นด้วย ต่อมาสเทเฟนถูกฆ่าด้วยการขว้างด้วยก้อนหิน ดังนั้นทั้งความตายและคำสอนของสเทเฟนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการขยายคริสตจักร และมีการกดขี่ข่มเหงคริสเตียนจึงทำให้คริสตชนกระจัดกระจายไปหลายที่หลายแห่งเมื่อคริสตชนไปอาศัยอยู่ที่ไดก็เผยแพร่ข่าวประเสริฐไปด้วย ดังนั้นนักวิชาการหลายคนเชื่อว่าสเทเฟนคงจะเป็นคริสตชนชาวยิวคนแรกที่เชื่อว่านมัสการพระเจ้าที่ไหนก็ได้ คือไม่จำเป็นจะไปที่พระวิหารดังคำสอนของบรรพชน
“ความทุกข์ก่อให้เกิดความพากเพียร”(รม 5:3)
"แต่ขอท่านทั้งหลายจงเจริญขึ้นในพระคุณและในความรู้ ซึ่งมาจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ทั้งในปัจจุบันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน" (2เปโตร 3:18)