สดด.103:1-3 “จิตใจของข้าเอ๋ยจงถวายสาธุการแด่พระเจ้าและอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์.. ผู้ทรงอภัยความบาปผิดทั้งสิ้นของท่านผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน.. พระเจ้าทรงพระกรุณาและมีพระคุณทรงกริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง.. พระองค์จะไม่ทรงปรักปรำเสมอหรือทรงกริ้วอยู่เป็นนิตย์..”

 

ซาตานมีความชำนาญพิเศษในการใช้อดีตทำลายชีวิตเรา อาวุธของมันคือการใช้ความรู้สึกผิด มันต้องการให้เราคิดว่าเราถลำลึกเกินไปแล้วและเพราะอดีตนั้นเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ความบาปจะงอกงามดีในดินแห่งความท้อแท้ใจ การทำผิดอย่างหนึ่งจะนำไปสู่ความผิดอีกอย่างหนึ่งได้ง่าย นิสัยบาปมีผลกระทบในลักษณะของโดมิโน ถ้าเราทำบาปครั้งหนึ่ง เราก็จะทำอีกเรื่อยๆเท่าที่อยากทำ ด้วยเหตุนี้คริสเตียนบางคนจึงถามว่า “พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปลงพวกเราได้หรือ?” พวกเขาเชื่อว่าในอนาคตชีวิตก็ไม่แตกต่างไปกว่านี้เนื่องจากอดีตของพวกเขานั่นเอง

 

มารพ่อแห่งการมุสา วางกับดักสำหรับชีวิตของเราไว้ 2 กับดัก กับดักที่ 1 ก่อนที่เราจะล้มลง มันจะบอกเราว่า ล้มเพียงครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอก มันไม่สำคัญสักเท่าไร เราก็ลุกขึ้นยืนใหม่ได้ กับดักที่ 2 หลังจากที่เราล้มลงแล้ว มันก็จะบอกเราว่าหมดหวังแล้วล่ะ เราจมอยู่ในบาปแล้ว ไม่จำเป็นต้องพยายามลุกขึ้นอีกหรอก” ความคิดทั้ง 2 อย่างนี้ผิด เพราะการทำบาปเพียงครั้งเดียว การล้มลงเพียงครั้งเดียวจะทำให้เราสูญเสียบางสิ่งที่ไม่อาจฟื้นฟูกลับคืนมาได้ แต่ถ้าเราล้มลงไปแล้ว เราไม่ควรจมอยู่ที่กับดักที่ 2 คือจมอยู่ในบาป ลุกขึ้นไม่ได้แล้ว

 

เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ โดยพระเจ้า คือ (1) การให้อภัยที่แท้จริง การชำระความบาปทั้งหมดของเราในอดีต ปัจจุบัน อนาคต และ (2) ขอให้เรามั่นใจว่า อดีต ปัจจุบันของเราไม่จำเป็นต้องให้มันควบคุมอนาคต พระองค์ตัดทำลายวงจรบาปได้ เพื่อให้ลูกของพระองค์ลุกขึ้นใหม่

 

พระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อชนชาติ(อิสราเอล)ที่เต็มด้วยการล่วงละเมิด การหลอกลวง และความเสื่อมทรามทางเพศ พระเจ้าตรัสว่า “ มาเถิด ให้เราสู้ความกัน ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม ก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ” (อสย. 1:18)

 

บางครั้งจิตสำนึกอาจทำให้เรามีปัญหา มันจะ ทบทวนบาปในอดีต ปัจจุบันของเราอย่างละเอียดยิบ เพื่อตอกย้ำว่าเราทำมันพังแล้ว แย่แล้ว ใช่การไม่ได้แล้ว

 

การดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกผิดก็เหมือนกับการพยายามขับรถทั้งๆที่สภาพร่างกายของคนขับไม่พร้อม เช่นง่วงนอนมาก ไม่สบาย หรือเมาสุรา หรือว่าสภาพรถไม่พร้อม เช่น ไม่มีน้ำมัน ติดเบรคอยู่ ก่อให้เกิดผลเสีย หรือผลร้ายแรงตามมาหลายประการ

 

เช่น ถูกปรับ ถูกจับ ถูกยึดใบขับขี่ ต้องหยุดงานเพื่อรับการอบรมเรื่องการขับรถใหม่ หรือ หรือก่อให้เกิดความเสียหาย บาดเจ็บ ถึงแก่ชีวิตได้

 

ส่วนผลเสียต่อการดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกผิดก็เช่น

- ทำให้เกิดความหดหู่กลุ้มใจ หมดหวัง  ไม่ก้าวหน้าในความเชื่อ

- ทำให้เป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยทางกาย

- ทำให้ขาดความเชื่อในพระเจ้า

- ทำให้มีการโทษตัวเอง ทำร้ายตนเอง ทำร้ายคนอื่น

- ทำให้เราต้องพยายามทำความดี เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดออกไป กิจกรรมที่ดีสามารถกดความรู้สึกผิดของเราได้ ช่วยให้เราปฏิเสธมัน หรือ ทำให้จิตสำนึกผิดชอบของเราดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง หรือระยะหนึ่ง แต่ไม่ช้าความรู้สึกผิดนั้นจะปรากฏออกมาอีก   แต่ขอบคุณพระเจ้า ที่พระองค์ไม่ทรงทิ้งเราไว้ให้ปราศจากความหวัง 

น้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับเราคือ ให้เราเป็นอิสระจากความรู้สึกผิดทุกรูปแบบ พระเจ้าปรารถนาให้คุณมีส่วนในการอภัยโทษของพระองค์ด้วย

-         คุณจำเป็นต้องยกโทษให้ตัวเอง และตระหนักว่า พระเจ้าไม่ปรารถนาให้เราลงโทษตัวเอง

-         ตระหนักว่าการรักษาโรคบาปของพระเจ้านั้นได้เสร็จสมบูรณ์แล้วในพระคริสต์ พระเจ้าได้ทรงทราบถึงความรู้สึก ท้อแท้ ความล้มเหลวทั้งหมดของเราล่วงหน้าแล้ว การตายของพระคริสต์บนไม้กางเขนได้เป็นเครื่องถวายบูชาไถ่ความบาปทั้งหมดของเรา ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ความบาปทุกอย่างที่เราทำนั้นได้ถูกจ่ายราคาไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับพระเจ้า การให้อภัยไม่ได้เป็นเรื่องยาก พระองค์ไม่เสียพระทัยในการประทานโอกาสให้แก่คุณ (ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม) พระเจ้าทรงต้องการให้คุณยอมรับโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย

 

ผู้ที่ไม่รู้จักยกโทษให้ตนเอง และการอภัยโทษจากพระเจ้า เขาย่อมจะไม่สามารถยกโทษให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

มีคนหนึ่ง (คนที่ไม่เชื่อพระเจ้า) ได้ ถามบิลลี่ เกรแฮม ว่า “ถ้าฮิตเลอร์ผู้ที่ได้ฆ่าชาวยิว 6 ล้านคนนั้น ต้อนรับพระคริสต์บนเตียงนอนขณะรอความตาย เขาจะได้ไปสวรรค์ไหม ในขณะที่บางคนเป็นคนดีแต่ต่อต้านพระคริสต์ต้องตกนรกอย่างนั้นหรือ”  ท่านจะตอบคำถามนี้อย่างไร คำตอบคือ “ ใช่ ”  พระเจ้าทรงให้คุณค่าแก่พระคริสต์มากจนกระทั่งพระองค์ทรงยอมรับฮิตเลอร์ไว้ด้วยความดีของพระคริสต์ แต่พระองค์ไม่ทรงยอมรับคนที่ดีที่สุดที่ปราศจากการไถ่ของพระคริสต์

 

ลองนึกภาพความบาปที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ ไม่ว่าจะเป็นความบาปของคุณ หรือของใครก็ตามที่ทำให้คุณเจ็บปวดยิ่งนักในเวลาที่ผ่านมา หรือปัจจุบันนี้ จนคุณไม่สามารถลืมมันได้ มันยังวนเวียนอยู่ในความคิดของคุณตลอดในขณะนี้   พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปเช่นนั้นด้วย

 

เสียงร้องของพระเคริสต์ที่บนไม้กางเขนว่า “ สำเร็จแล้ว ” ในคำกรีก เป็นคำเดียวกับคำว่า “ telelestai” เป็นคำที่ใช้ในการเขียนทับลงไปในใบเสร็จเก็บเงินจะหมายถึง “จ่ายหมดแล้ว”

 

ความตายของพระคริสต์ได้จ่ายราคาความบาปของเราจนหมดสิ้นแล้ว   เมื่อพระเจ้าทรงยกโทษให้ พระองค์ไม่มีวันนำมันกลับมาต่อสู้กับเราอีก ความบาปที่สารภาพไปเมื่อวานนี้จะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างเรากับพระเจ้า เว้นแต่เราจะปฏิเสธไม่ยอมรับการยกโทษของพระองค์หรือเกิดความสงสัย     เราไม่จำเป็นต้องสารภาพบาปเดิมเป็นครั้งที่สอง แต่ถ้าเราทำบาปเดิมอีกเราต้องสารภาพอีก เพื่อฟื้นฟูการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า   การที่เราย้อนกลับมาสารภาพบาปเดิมอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นไปได้ว่าเราไม่เคยมีประสบการณ์ หรือไม่เข้าใจในการรับพระคุณพระเจ้าและการยกโทษจากบุคคลอื่นมาก่อน

 

ซาตานชนะ มันยินดีในการทำให้ผู้เชื่อสารภาพบาปเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก   เราจะติดกับโดยความไม่เชื่อในพระคุณ การยกโทษของพระเจ้า และตกเป็นเหยื่ออารมณ์ ความรู้สึกแย่ ไม่เอาไหนของตัวเอง ผลลัพธ์ก็คือ ไม่มีความรัก ความชื่นชมยินดี หรือสันติสุข เราไม่ควรนั่งอยู่บนที่นั่งแห่ง “ความไม่มั่นใจในการยกโทษให้ของพระเจ้า” คริสเตียนหลายคนเป็นอัมพาต พิการฝ่ายจิตวิญญาณ ไม่ก้าวหน้าในความเชื่อ เพราะสิ่งนี้แหละ

 

เราจะหลีกเลี่ยงกับดักนี้ได้โดยการนมัสการพระเจ้า สรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าสำหรับการอภัยโทษของพระองค์ ขอให้เรากลับไปอ่านและใคร่ครวญ สดุดี บทที่32 และ 103 อีกหลาย ๆ เที่ยวจนกว่าเราเข้าใจ ได้รับการสัมผัสจากพระเจ้า ได้รับอิสระจากความรู้สึกผิด

 

เราต้องเรียนรู้จักการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่อารมณ์ พระเจ้าทรงสัญญาเรื่องการชำระเท่าๆกับการให้อภัย 1 ยอห์น 1:9 ถ้า เรา สารภาพ บาป ของ เรา พระองค์ ทรง สัตย์ซื่อ และ เที่ยงธรรม ก็ จะ ทรง โปรด ยก บาป ของ เรา และ จะ ทรง ชำระ เรา ให้ พ้น จาก การ อธรรม ทั้งสิ้น การให้อภัยมีความหมายว่าเราสามารถยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าได้อย่างถูกต้อง การชำระจะมีอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของเราพระองค์ต้องการให้เรามีชีวิตสะอาดจริงๆ เป็นภาชนะที่พระองค์จะใช้การได้

 

พระคุณของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าบาปของเรา ไม่ว่าความผิดนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ถ้าพระเจ้าทรงลบ ลืมบาปใน อดีต ปัจจุบันและอนาคตของเราได้ แล้วทำไมเราจะลืมไม่ได้ล่ะ พระองค์ทรงเหวี่ยงบาปของเราลงไปที่ก้นทะเลลึก ตะวันออกไกลจากตะวันตกฉันใด พระองค์ก็จะปลดความบาป การล่วงละเมิดของเราไปไกล ฉันนั้น